บทความนี้เขียนโดยคู่รักชาวญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในต่างจังหวัดของประเทศไทย 💑
พวกเราเป็นคนโอซาก้าโดยกำเนิด และทุกครั้งที่กลับญี่ปุ่น เรามักจะพักที่ “เทนโนจิ (Tennoji)” เสมอ
เพราะเดินทางจากสนามบินคันไซได้สะดวก และเป็นจุดศูนย์กลางการคมนาคมที่เหมาะที่สุด
🗣 นักท่องเที่ยวชาวไทยส่วนใหญ่มักเลือก “นัมบะ (Namba)” เป็นที่พักในโอซาก้า
แต่จริง ๆ แล้ว “เทนโนจิ (Tennoji)” สะดวกกว่า เงียบกว่า และให้บรรยากาศแบบคนท้องถิ่นมากกว่า ✨
ที่นี่มีครบทั้งแหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหาร และสถานที่ท่องเที่ยว เช่น “Abeno Harukas” และ “Shinsekai” ที่สามารถเดินไปได้ในไม่กี่นาที

🚉 เส้นทางหลักในการเดินทางจากสนามบินคันไซไปยังเทนโนจิ
จากสนามบินคันไซ (Kansai Airport) ไปยังตัวเมืองโอซาก้า มี 2 ทางหลักให้เลือกคือ “รถไฟ JR” และ “รถไฟสาย Nankai”
แต่ถ้าจุดหมายของคุณคือ เทนโนจิ (Tennoji) ขอบอกเลยว่า JR คือทางเลือกเดียวที่ดีที่สุด
เพราะรถไฟสาย Nankai ไปถึงแค่ “Namba” เท่านั้น ไม่ได้วิ่งตรงถึงเทนโนจิ
นอกจากนี้ ยังมีอีกทางเลือกหนึ่งที่คนไทยอาจไม่รู้ นั่นคือ
รถบัสลีมูซีน (Limousine Bus) ที่วิ่งตรงจากสนามบินคันไซมาถึงเทนโนจิเลย 🚍
เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่มีกระเป๋าเดินทางเยอะ หรือเดินทางเป็นครอบครัว
🚆 【1】เดินทางด้วย JR (แนะนำที่สุด)
① รถไฟ JR Kansai Airport Rapid (関空快速)
⏱ เวลาที่ใช้: ประมาณ 50 นาที
💴 ค่าโดยสาร: ประมาณ 1,100 เยน (≈ 245 บาท)
🚉 การต่อรถ: ไม่มี (รถไฟตรง)
🎟 ประเภทที่นั่ง: ที่นั่งทั่วไป (ไม่มีจองที่)
รถไฟขบวนนี้เป็นรถไฟปกติที่คนญี่ปุ่นใช้ในชีวิตประจำวัน
สามารถใช้บัตร ICOCA หรือบัตร JR Pass ได้
เดินทางตรงถึงเทนโนจิแบบไม่ต้องเปลี่ยนขบวน เหมาะสำหรับนักเดินทางมือใหม่มาก ๆ
✅ ข้อดี: ราคาถูก เดินทางง่าย ไม่ซับซ้อน
⚠️ ข้อควรระวัง: พื้นที่วางกระเป๋าเดินทางมีจำกัด หากขึ้นช่วงคนเยอะอาจต้องยืนตลอดทาง
② รถไฟด่วนพิเศษ JR Limited Express Haruka (特急はるか)
⏱ เวลาที่ใช้: ประมาณ 35 นาที
💴 ค่าโดยสาร: ประมาณ 2,400 เยน (≈ 535 บาท)
🚉 การต่อรถ: ไม่มี
🎟 ประเภทที่นั่ง: มีที่นั่งจอง / มีพื้นที่วางกระเป๋าใหญ่
รถไฟ “Haruka” เป็นทางเลือกที่รวดเร็วและสบายที่สุดในการเดินทางระหว่างสนามบินคันไซกับเทนโนจิ
นักท่องเที่ยวต่างชาติใช้กันเยอะมาก และสามารถใช้ JR Pass ได้
✅ ข้อดี: เร็ว สะดวกสบาย วางกระเป๋าได้ง่าย
⚠️ ข้อควรระวัง: ราคาสูงกว่าขบวนธรรมดา แต่ช่วยประหยัดเวลาและแรงได้มาก
💡 หมายเหตุสำหรับผู้โดยสารสาย LCC (เช่น Peach):
เครื่องบิน LCC จะลงที่ เทอร์มินัล 2 แต่สถานี JR อยู่ที่ เทอร์มินัล 1
ต้องนั่ง รถชัตเทิลบัสฟรี ระหว่างเทอร์มินัลเพื่อไปขึ้นรถไฟ JR
🚉 รถไฟ Nankai ไม่ได้ไปเทนโนจิ ต้องระวัง!
หลายคนคิดว่า “จะไปโอซาก้า ก็ขึ้น Nankai ได้เลยสิ” — แต่นั่นเป็นความเข้าใจผิดเล็กน้อย!
เพราะรถไฟสาย Nankai จะไปถึงแค่ “Namba” เท่านั้น ไม่ผ่านเทนโนจิ
หากขึ้นผิดสาย ต้องทำแบบนี้👇
1️⃣ ลงที่สถานี Namba
2️⃣ ต่อรถไฟใต้ดินสายสีแดง (Midosuji Line)
3️⃣ ประมาณ 10 นาทีจะถึงสถานี Tennoji
แต่โปรดระวัง! เส้นทางนี้มีบันไดเยอะมาก และช่วงเช้า–เย็นจะคนแน่นสุด ๆ
ถ้ามีกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ แนะนำให้หลีกเลี่ยงเส้นทางนี้
🧳 คำแนะนำจากคนที่เกิดที่เทนโนจิจริง ๆ
“สถานีในญี่ปุ่นซับซ้อนกว่าที่คิดเยอะครับ”
โดยเฉพาะบริเวณระหว่างเทนโนจิกับชินอิมามิยะ (Shin-Imamiya) ที่มีหลายชั้นและบันไดเยอะมาก
✅ เส้นทางที่ดีที่สุดคือ JR ขบวนตรงแบบไม่ต้องเปลี่ยนรถ
เพราะช่วยประหยัดแรง ประหยัดเวลา และไม่ต้องลากกระเป๋าขึ้นลงหลายรอบ
🧍♀️ 3 กับดักสำหรับคนมีกระเป๋าเดินทาง
ในญี่ปุ่น มี “บันได” “ทางลาด” และ “พื้นต่างระดับ” มากกว่าที่คุณคิด
นักท่องเที่ยวที่ไม่เคยชินมักเจอปัญหา 3 อย่างนี้
1️⃣ บนรถไฟ: ที่วางกระเป๋าน้อย และกระเป๋าอาจกลิ้งได้ถ้าเบรกกระทันหัน
2️⃣ บันได: ต้องยกขึ้นลงบ่อย ทำให้เมื่อยข้อมือหรือหลัง
3️⃣ ทางลาด: ทางเท้าบางจุดมีความชันมาก
💡 คำแนะนำ:
ถ้ามีกระเป๋า 2 ใบขึ้นไป แนะนำให้นั่ง “Haruka” หรือ “Limousine Bus” จะสะดวกกว่าเยอะ
🚌 【2】เดินทางด้วยรถบัสลีมูซีน (สะดวกมากโดยเฉพาะคนมีกระเป๋าใหญ่)
จากสนามบินคันไซถึงเทนโนจิ มีรถ Limousine Bus (Airport Bus) วิ่งตรง
โดยจะจอดที่หน้า “Abeno Harukas” หรือ “สถานีเทนโนจิ” ซึ่งสะดวกมากสำหรับนักท่องเที่ยวที่พักใกล้สถานี
🏁 ข้อมูลเบื้องต้น
⏱ เวลาที่ใช้: ประมาณ 50–55 นาที (ถ้ารถติด +20 นาที)
💴 ค่าโดยสาร: ประมาณ 1,700 เยน (≈ 380 บาท)
🚌 จุดขึ้นรถ: สนามบินคันไซ อาคารผู้โดยสาร 1 ชั้น 1 ป้ายที่ 7
🏨 จุดลงรถ: สถานี Tennoji / หน้าห้าง Abeno Harukas
✅ ข้อดี
- ฝากกระเป๋าไว้ในช่องเก็บใต้รถได้ ไม่ต้องยกขึ้นรถ
- ไม่ต้องต่อรถ เดินทางตรงถึงหน้าโรงแรม
- มีที่นั่งส่วนตัว แอร์เย็นสบาย
- เหมาะกับครอบครัวและคู่รัก
⚠️ ข้อควรระวัง
- มีเพียง 1–2 รอบต่อชั่วโมง
- ช่วงเย็นอาจเจอรถติดบนทางด่วน
- เว็บไซต์จองมีเฉพาะภาษาญี่ปุ่นและอังกฤษ (ยังไม่มีภาษาไทย)
👉 เว็บไซต์ทางการ: https://www.kate.co.jp/
🚀 ตารางเปรียบเทียบ JR vs Limousine Bus
| รายการเปรียบเทียบ | JR Kansai Rapid | JR Haruka | Limousine Bus |
|---|---|---|---|
| เวลาเดินทาง | ประมาณ 50 นาที | ประมาณ 35 นาที | ประมาณ 55 นาที (อาจรถติด) |
| ค่าโดยสาร (บาทโดยประมาณ) | 245฿ | 535฿ | 380฿ |
| ความสะดวกในการวางกระเป๋า | △ | ◎ | ◎◎◎ |
| ต้องต่อรถไหม | ไม่ต้อง | ไม่ต้อง | ไม่ต้อง |
| ความสบาย | ○ | ◎ | ◎◎ |
| ความเสี่ยงรถติด | ไม่มี | ไม่มี | มีเล็กน้อย |
💡 สรุป:
- 💰 เน้นประหยัด → JR Kansai Rapid
- 🕒 เน้นความเร็วและสบาย → JR Haruka
- 🧳 มีกระเป๋าเยอะ / เดินทางเป็นครอบครัว → Limousine Bus
ทั้ง 3 เส้นทางไปถึงเทนโนจิโดยตรง
แต่ถ้าอยาก “ไม่ต้องแบกของ ไม่ต้องขึ้นลงบันได” — รถบัสคือทางเลือกที่ดีที่สุดครับ
🇯🇵 มารยาทบนรถไฟญี่ปุ่นที่ควรรู้
มารยาทบนรถไฟของญี่ปุ่นค่อนข้างเข้มงวด
อาจดูละเอียดไปหน่อยสำหรับคนต่างชาติ แต่ถ้าระวังนิดเดียว คนญี่ปุ่นจะรู้สึกดีมาก
🚫 พูดคุยเสียงเบา
🚫 หลีกเลี่ยงอาหารที่มีกลิ่นแรง
🚫 อย่ายืนขวางทางหรือหน้าประตู
🚫 ลุกให้ผู้สูงอายุหรือหญิงตั้งครรภ์
เพียงแสดงท่าทีสุภาพและถ่อมตัวเล็กน้อย คนญี่ปุ่นจะยิ้มและช่วยเหลือคุณแน่นอน 😊
🏁 บทสรุป: ถ้าไปเทนโนจิ “เส้นทางตรง ไม่ต้องต่อรถ” คือคำตอบ!
- 🚆 JR Kansai Rapid → ถูกและง่าย
- 🚄 JR Haruka → เร็วและสบาย
- 🚌 Limousine Bus → สบายสุด เหมาะกับคนมีกระเป๋าเยอะ
ทั้งสามวิธีไปถึงเทนโนจิโดยตรง
แต่ถ้าคุณมีกระเป๋าหนัก หรือมาเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก แนะนำให้ใช้ Limousine Bus ครับ
เทนโนจิเป็นย่านที่เงียบกว่านัมบะ
แต่มีครบทั้งช้อปปิ้ง อาหาร และบรรยากาศแบบ “โอซาก้าของคนท้องถิ่น” ที่แท้จริง 🇯🇵
📍 ผู้เขียน: Happy Thai(แฮปปี้ไทย)
คู่รักชาวญี่ปุ่นจากโอซาก้า ที่ตอนนี้ใช้ชีวิตเรียบง่ายในต่างจังหวัดของไทย
เราตั้งใจเขียนบทความเพื่อให้ “การเที่ยวญี่ปุ่นของคนไทย เข้าใจง่ายและเป็นมิตรที่สุด”
👉 ถ้าบทความนี้มีประโยชน์ ฝากแชร์ให้เพื่อนที่กำลังจะมาเที่ยวญี่ปุ่นด้วยนะครับ 🇹🇭✈️
โรงแรมแนะนำใกล้สถานีเท็นโนจิ 🏨
เดินจากสถานีไม่เกิน 5 นาที 🚶♂️
รอบๆ มีร้านอาหารและร้านสะดวกซื้อมากมาย 🍱🛍️


コメント